ความร่วมมือที่นำไปสู่ความสำเร็จ: การขยายธุรกิจด้านหุ่นยนต์อย่างเห็นผลชัดเจน

จากข้อมูลของ IDC พบว่าการใช้จ่ายทั่วโลกในโซลูชันด้านโดรนและหุ่นยนต์จะสูงขึ้นแตะ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2022 และมีอัตราการเติบโตโดยรวมต่อปีหรือ CARG อยู่ที่ 19.6% ในช่วงที่คาดการณ์ตั้งแต่ปี 2017 – 2022

ซึ่งบริษัทด้านหุ่นยนต์ที่ต้องการกินส่วนแบ่งตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วนี้แล้ว ก็ถึงเวลาที่จำเป็นต้องเผชิญกับความท้าทายในการพัฒนาหุ่นยนต์ของตัวเองให้ครอบคลุมการใช้งานให้กว้างมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสทองที่ไม่ควรปล่อยให้หลุดมือ

อย่างไรก็ดี การขยายธุรกิจด้านหุ่นยนต์ในปัจจุบันถือเป็นความท้าทายอย่างมาก และอาจสร้างภาระหนักให้แก่บริษัทขนาดเล็กในการจะมีหนึ่งในพนักงานคนสำคัญที่สามารถเดินทางไปยังไซต์งานของลูกค้าพร้อมหุ่นยนต์ เพื่อวางระบบหุ่นยนต์ใหม่ อบรมผู้ใช้ปลายทาง และแก้ปัญหาระหว่างการติดตั้งที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างครอบคลุม นอกจากนี้สิ่งที่ดูเหมือนจะท้าทายยิ่งกว่าก็คือ การคอยบำรุงรักษาหุ่นยนต์หลังจากติดตั้งเสร็จ ซึ่งการบำรุงรักษาเชิงป้องกันและการตอบสนองแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างรวดเร็วนั้นถือเป็นหัวใจของการรับรู้ประสิทธิภาพที่ได้จากระบบหุ่นยนต์ เมื่อพิจารณาร่วมกับค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และเวลาที่สูญเสียไปกับการออกจากสำนักงานไปหาลูกค้าหลายเจ้าแล้ว ยิ่งทำให้ดูยากมากที่จะยังฝืนทำงานอย่างหนักเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ที่อาจแย่ไปกว่านั้นคือ การที่ทั้งเวลาและทรัพยากรถูกดึงออกไปจากเจตนารมณ์หลักที่ก่อตั้งบริษัทด้านหุ่นยนต์ตั้งแต่แรก คือ การลงทุนเพื่อพัฒนานวัตกรรมและออกแบบหุ่นยนต์ยุคใหม่ ดังนั้น สำหรับเหล่าสตาร์ทอัพที่มุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจแล้ว ก็ถึงเวลาที่ควรใช้ประโยชน์จากการมีพาร์ทเนอร์ที่ดีเสียที

กุญแจสำคัญในการมองหาพาร์ทเนอร์ และจัดการการเติบโตให้ประสบความสำเร็จ

ความไว้วางใจ

ความร่วมมือที่ดีเริ่มต้นจากความเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์ และความไว้วางใจว่าบริษัทที่ทำงานด้วยจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การรับเอาพาร์ทเนอร์ด้านการให้บริการเข้ามาคุยตั้งแต่แรก จะช่วยให้ได้การสื่อสารที่ชัดเจน และทำความเข้าใจในผลิตภัณฑ์และเป้าหมาย รวมทั้งวัตถุประสงค์การใช้งานหุ่นยนต์ของผู้ใช้ปลายทางได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างกรณีศึกษาของบริษัท NXT Robotics ซึ่งทาง NXT กำลังเจาะตลาดโซลูชันหุ่นยนต์ด้านความปลอดภัยส่วนตัวสำหรับใช้งานกลางแจ้ง โดยพุ่งเป้าไปที่การใช้งานในลานจอดรถ และในงานอีเวนท์ขนาดใหญ่ไปจนถึงไซต์งานก่อสร้าง ทาง NXT Robotics ได้ให้ความสำคัญกับการขยายฐานลูกค้า ซึ่งพวกเขาต้องการให้ลูกค้าเชื่อมั่นไม่เพียงแค่ตัวหุ่นยนต์ว่าเลือกหุ่นที่เหมาะกับงานของตัวเองเพียงเท่านั้น แต่ยังต้องการให้ลูกค้าเชื่อมั่นในตัวบริษัทที่ให้บริการโซลูชันอย่างเหมาะสม และรองรับความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

“เราเซ็นสัญญาการบริการตั้งแต่ช่วงแรกที่เริ่มทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ เพื่อเร่งความเร็วในการพัฒนาแพลตฟอร์ม Cognitive Robotics ออกสู่ตลาด” ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท NXT Robotics ดาริน แอนเดอร์สันกล่าว “ความร่วมมือลักษณะนี้ทำให้เราสามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้ตลอดเวลาพร้อมๆ กับการทำให้ธุรกิจของเราเติบโตอย่างต่อเนื่อง”

การสร้างความร่วมมือกับผู้ให้บริการที่มีศักยภาพสูง ทำให้สตาร์ทอัพด้านธุรกิจหุ่นยนต์ขนาดเล็กก้าวขึ้นเป็นผู้นำ และให้บริการที่ลูกค้าเชื่อมั่นได้ว่าหุ่นยนต์ที่เลือกใช้นั้นจะได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีแม้เสร็จสิ้นการติดตั้งแล้ว

องค์ความรู้และทรัพยากร

แน่นอนว่าบริษัทด้านหุ่นยนต์หลายเจ้าต่างมีความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเพื่อซัพพอร์ทผลิตภัณฑ์ของตัวเอง แต่สิ่งที่พวกเขามักจะขาดในช่วงเริ่มแรกก็คือ ทรัพยากรที่ใช้ในการดูแลด้านซัพพอร์ตอย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ด้วยความง่ายของการระดมทุนในระยะแรก มักทำให้ธุรกิจสตาร์ทอัพหลงใหลกับการใช้เงินส่วนนี้จ้างคนจำนวนมากเพื่อตอบสนองความคาดหวังของตลาด จนอาจนำไปสู่การขยายขนาดธุรกิจภายในที่ไม่ยั่งยืน แทนที่จะคอยเฟ้นหาทีมงานที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง สิ่งนี้นับเป็นกับดักที่พบได้ทั่วไป ที่มักทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าที่ควรจะเป็นในบริษัทกลุ่มสตาร์ทอัพการหันมาเอาต์ซอร์สในงานบางส่วนของการติดตั้งระบบ และคอยสนับสนุนธุรกิจในช่วงสตาร์ทอัพแทนก็ถือเป็นวิธีที่สมเหตุสมผลในแง่ที่สามารถปล่อยให้ทีมงานหลักของสตาร์ทอัพเอาเวลาไปให้ความสำคัญกับงานด้านออกแบบ วิศวกรรม แน่นอนว่าบริษัทด้านหุ่นยนต์หลายเจ้าต่างมีความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเพื่อซัพพอร์ทผลิตภัณฑ์ของตัวเอง แต่สิ่งที่พวกเขามักจะขาดในช่วงเริ่มแรกก็คือ ทรัพยากรที่ใช้ในการดูแลด้านซัพพอร์ตอย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ด้วยความง่ายของการระดมทุนในระยะแรก มักทำให้ธุรกิจสตาร์ทอัพหลงใหลกับการใช้เงินส่วนนี้จ้างคนจำนวนมากเพื่อตอบสนองความคาดหวังของตลาด จนอาจนำไปสู่การขยายขนาดธุรกิจภายในที่ไม่ยั่งยืน แทนที่จะคอยเฟ้นหาทีมงานที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง สิ่งนี้นับเป็นกับดักที่พบได้ทั่วไป ที่มักทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าที่ควรจะเป็นในบริษัทกลุ่มสตาร์ทอัพการหันมาเอาต์ซอร์สในงานบางส่วนของการติดตั้งระบบ และคอยสนับสนุนธุรกิจในช่วงสตาร์ทอัพแทนก็ถือเป็นวิธีที่สมเหตุสมผลในแง่ที่สามารถปล่อยให้ทีมงานหลักของสตาร์ทอัพเอาเวลาไปให้ความสำคัญกับงานด้านออกแบบ วิศวกรรม และทำการตลาดให้ผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์ของตนสร้างความน่าสนใจแก่กลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น

จึงนับเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับแต่ละบริษัทในการเลือกเฟ้นผู้ให้บริการที่มีความสามารถทางเทคนิคที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังควรพิจารณาขอบเขตและความหลากหลายของทรัพยากรที่พาร์ทเนอร์สามารถนำมาใช้สนับสนุนสตาร์ทอัพได้ด้วย เช่น การพิจารณาว่าพวกเขามีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมอยู่แล้วสำหรับตอบสนองความต้องการหรือไม่ มีบริการครอบคลุมทั่วประเทศ หรือแม้แต่ระดับนานาชาติ ที่ครอบคลุมถึงผู้ใช้ปลายทางของเราหรือไม่ และไม่ใช่ดูแค่เรื่องค่าใช้จ่ายเท่านั้น ยังควรมองปัจจัยด้านอื่นๆ ที่ผู้ให้บริการเป็นประโยชน์ต่อความร่วมมือของเราด้วย อย่างเช่น พาร์ทเนอร์ที่ไว้วางใจได้นั้นต้องการเห็นบริษัทด้านหุ่นยนต์ของคุณเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมทั้งค้นพบศักยภาพหรือตลาดใหม่ที่สามารถขยายเครือข่ายของธุรกิจบริษัทสตาร์ทอัพด้านหุ่นยนต์ได้ เป็นต้น

การฝึกอบรม

ความสัมพันธ์กับผู้ใช้ปลายทางของคุณไม่ได้หยุดอยู่แค่หลังจากลูกค้าซื้อหุ่นยนต์ของคุณไปแล้วเท่านั้น การให้ความรู้แก่ผู้ใช้ปลายทางเกี่ยวกับความสามารถ และการใช้งานหุ่นยนต์ที่เหมาะสมก็ถือเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จในการวางระบบและสานสัมพันธ์กับลูกค้าของคุณด้วย แม้หัวหน้าทีมผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์และทีมวิศวกรทั้งหลายจัดเป็นกลุ่มคนที่มีแหล่งความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับหุ่นยนต์ของคุณมากที่สุดก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาเหล่านี้จะมีทรัพยากรมากพอและพร้อมสำหรับจัดเตรียมเนื้อหา และจัดการฝึกอบรมในโปรเจกต์ขนาดใหญ่ได้ บริษัทด้านหุ่นยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หรือมีอุปกรณ์เครื่องมือที่ปรับแต่งเป็นพิเศษก็อาจใช้ประโยชน์จากการจัดจ้างพาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ ที่สามารถให้โปรแกรมการฝึกอบรมที่ครอบคลุมในฐานะส่วนหนึ่งของกระบวนการวางระบบที่ฝั่งของลูกค้าได้ด้วย