โทรศัพท์สำนักงานของคุณถูกแฮกได้หรือไม่?
บทบาทของเทคโนโลยีในสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เน้นลงมือทำ (Active Learning)
มหาวิทยาลัยที่พร้อมด้วยเทคโนโลยีมีความสำคัญต่อความอยู่รอดและความสำเร็จ และนี่คือเหตุผล
นอกจากเหตุผลพื้นฐานที่นักศึกษาและบุคลากรใช้เทคโนโลยีทุกวัน อย่างการเข้าสู่ระบบเครือข่ายของมหาวิทยาลัย การพิมพ์งานได้จากทุกที่ การเชื่อมต่อระหว่างห้องเรียนกับหอพัก และอื่นๆ อุปกรณ์มือถือและอุปกรณ์พกพาได้เปลี่ยนวัฒนธรรมการศึกษาระดับอุดมศึกษาแบบดั้งเดิมไปอย่างสิ้นเชิง ปรากฏการณ์ปฏิวัตินี้เรียกว่า “Flipped Classroom” ซึ่งกำลังพลิกโฉมวิธีการเรียนรู้แบบเดิม
Flipped Classroom คืออะไร?
ตามที่ Educause ระบุ Flipped Classroom คือโมเดลการเรียนการสอนที่สลับหน้าที่ของการบรรยายและการบ้าน นักศึกษาจะดูวิดีโอสั้นๆ ที่บ้านก่อนถึงเวลาห้องเรียนที่กำหนดไว้ แล้วเวลาในชั้นเรียนจะใช้ทำกิจกรรม โปรเจกต์ หรืออภิปรายร่วมกัน
แนวคิดนี้เชื่อมโยงกับการเรียนรู้เชิงลงมือทำ (Active Learning) การมีส่วนร่วมของนักศึกษา (Student Engagement) และการออกแบบหลักสูตรแบบผสมผสาน (Hybrid Course Design) โดยอาจารย์จะใช้เทคโนโลยี เช่น Learning Management Systems (LMS) อีเมล โซเชียลมีเดีย ฯลฯ เพื่อส่งมอบเนื้อหา (วิดีโอ พอดแคสต์ เอกสารอ่านประกอบ บรรยายที่บันทึกไว้ล่วงหน้า ฯลฯ) ให้นักศึกษาศึกษาล่วงหน้าก่อนเข้าห้องเรียน
บทบาทของผู้สอน
ใน Flipped Classroom ผู้สอนไม่ใช่เพียงแค่นั่งบรรยายขณะนักศึกษาจดโน้ตแล้วถูกทดสอบในภายหลังอีกต่อไป แต่เปลี่ยนเป็นบทบาทของโค้ชหรือที่ปรึกษาที่สนับสนุนให้นักศึกษาแสวงหาคำถามของตัวเอง ทำงานร่วมกับผู้อื่น และคิดวิเคราะห์
มีบทความจาก Boston Globe ระบุว่า โรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัย Vermont ตั้งเป้าหมายเลิกการบรรยายแบบเดิมทั้งหมดภายในปี 2019 เพื่อมุ่งเน้นผลิตแพทย์ที่ฟังได้ดี ค้นหาข้อเท็จจริง คิดเชิงวิเคราะห์ และทำงานร่วมกันได้ดี บทความยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่อาจารย์พูดในห้องเรียนมักถูกลืมภายในไม่กี่สัปดาห์ และบางครั้งล้าสมัยภายในไม่กี่ปี
ใช้เทคโนโลยี แต่ไม่ใช่มากเกินไป
ทุกวันนี้ ด้วยอุปกรณ์มือถือ นักศึกษาสามารถหาคำตอบของหลายเรื่องได้ภายในไม่กี่วินาทีผ่านโทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือแล็ปท็อป แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการเรียนรู้วิธี วิเคราะห์ ข้อมูล ซึ่งการพิจารณาว่าแหล่งข้อมูลไหนมีความน่าเชื่อถือ มีความเกี่ยวข้อง ถูกต้อง และมีประโยชน์จะเป็นบทบาทใหม่ของผู้สอน
งานวิจัยหนึ่งพบว่า การใช้เทคโนโลยีในระดับต่ำถึงปานกลางในห้องเรียนได้ผลดีกว่าใช้ในระดับสูง และเมื่อเทคโนโลยีถูกใช้เป็น “เครื่องมือทางความคิด” มากกว่าแค่ใช้ในการนำเสนอ นักศึกษาจะได้รับประโยชน์สูงสุด
เพิ่มคุณค่าให้กับห้องเรียน
แนวคิดการเรียนรู้ใหม่ๆ นี้ชวนให้ตั้งคำถามว่า ถ้าอาจารย์แค่ยืนบรรยายหรือแสดงวิดีโอ นักศึกษาก็อาจหามาดูเองได้ และอาจมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าคอร์สเรียนเฉลี่ยด้วยซ้ำ
คุณค่าของการเรียนในมหาวิทยาลัยจึงย้ายมาอยู่ที่ ประสบการณ์ในห้องเรียน การอภิปราย การวิเคราะห์ การทำกิจกรรมร่วม ขณะที่เวลาอยู่นอกห้องเรียนนั้นใช้สำหรับเชื่อมต่อ รับสาร และศึกษาล่วงหน้า
ใน TEDxLSU “Teaching Naked” Dr. Jose Bowen กล่าวว่า “การคิดสำคัญยิ่งกว่า เราไม่ได้มีหน้าที่แค่ใส่เนื้อหาลงไปในหัว เพราะหากเป็นเช่นนั้น อินเทอร์เน็ตสามารถทำได้เร็วกว่า เราอยู่ในธุรกิจที่ช่วยคุณคัดกรองทุกสิ่งและคิดอย่างแท้จริง” เขายังตั้งคำถามว่า “เราจะมอบสิ่งใดที่ คุ้มค่า ที่สุดสำหรับเงินที่จ่ายไป?”
ผลิตภัณฑ์ (การศึกษาในมหาวิทยาลัยโดยตรง) จะต้องดีกว่าคู่แข่งอย่างเทียบไม่ติด ซึ่งปัจจุบันรวมถึงทั้งการเรียนออนไลน์และทางเลือกการเรียนรู้รูปแบบอื่นๆ เพื่อให้คุ้มค่ากับค่าเล่าเรียนจำนวนมากที่นักศึกษาต้องจ่าย
ดังนั้น ความสามารถในการเชื่อมต่อเครือข่ายถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของมหาวิทยาลัย
เพื่อให้นักศึกษาประสบความสำเร็จในการเรียนแบบ Flipped Classroom มหาวิทยาลัยต้องมอบความสะดวกให้นักศึกษาสามารถทำงานนอกห้องเรียนได้ตามเวลาที่เหมาะสม ผ่านการเชื่อมต่อเครือข่ายด้วยอุปกรณ์ส่วนตัวของพวกเขา ไม่ว่าจะอยู่ที่ศูนย์นักศึกษา ห้องเรียน หอพัก หรือแม้แต่บนอัฒจันทร์สนามกีฬา ซึ่งหมายความว่า การมีระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่ออย่างครบวงจร จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเรียนรู้ของนักค้านนอกห้องเรียน
สถาบันการศึกษาทุกแห่งในปัจจุบันต้องมั่นใจว่าโครงข่ายของมหาวิทยาลัยสามารถรองรับอุปกรณ์หลากหลายของนักศึกษา บุคลากร และคณาจารย์ได้ อุปกรณ์ที่ส่วนใหญ่นำมาเอง (Bring Your Own Device หรือ BYOD) ไม่ได้จัดมาให้อย่างเป็นทางการโดยมหาวิทยาลัย
เพื่อมอบประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีที่สุด มหาวิทยาลัยสามารถร่วมงานกับผู้ให้บริการที่มีทรัพยากร ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการสร้างระบบเครือข่ายภายในมหาวิทยาลัยที่แข็งแรงและรองรับ BYOD ได้อย่างเต็มที่ สถาบันที่มีเครือข่ายและองค์ประกอบทางเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะพร้อมเปลี่ยนสู่การเรียนการสอนแบบ Flipped และแบ่งปันข้อมูลอย่างอิสระได้อย่างแท้จริง
ที่มา: RICOH USA
News & Events
Keep up to date
- 19ก.ย.
ริโก้ได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสารไทม์ (TIME) ให้อยู่ในรายชื่อบริษัทที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี พ.ศ. 2568 จากความโดดเด่นด้านการมีส่วนร่วมของพนักงาน การเติบโต และการดำเนินงานอย่างยั่งยืน
- 19ส.ค.
ริโก้ เอเชียแปซิฟิก จับมือไมโครซอฟท์ เสริมศักยภาพบุคลากรให้พร้อมรับอนาคตด้วยเอไอ
- 30ก.ค.
ริโก้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่อยู่ในดัชนี ESG ทั้ง 6 รายการ สำหรับหุ้นญี่ปุ่นที่กองทุนบำเหน็จบำนาญของรัฐบาลญี่ปุ่น (GPIF) ใช้ในการลงทุน
- 25ก.ค.
ลงทะเบียนฟรี งานสัมมนาออนไลน์จากริโก้ หัวข้อ "Smart Integration of Cybersecurity"