ความปลอดภัยข้อมูลในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ
โลกแห่งการดูแลสุขภาพในปัจจุบันเต็มไปด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เข้ามาเปลี่ยนวิธีการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารภายในกิจการสาธารณสุขกันเอง ระหว่างองค์กรสุขภาพ หรือการสื่อสารกับผู้ป่วย
การนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้ อาจเป็นการเปิดรับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูลและการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข้อมูลสุขภาพที่ถูกโจรกรรมนั้นสามารถขายได้ในราคาเฉลี่ย 363 ดอลลาร์บนตลาดมืด ทำให้โรงพยาบาลตกเป็นเป้าหมายหลักของการโจรกรรมข้อมูล
ขณะที่อุตสาหกรรมสาธารณสุขและรัฐบาลพยายามหาวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องข้อมูลผู้ป่วย ข้อกำหนดในการปฏิบัติตามกฎหมายกลับยิ่งซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น จากการสำรวจพบว่า 61% ของผู้ตอบแบบสอบถามด้าน IT ในวงการสุขภาพกล่าวว่า เพื่อปฏิบัติตามกฎข้อบังคับทางกฏหมาย การใช้จ่ายเพื่อความปลอดภัยด้าน IT ถือเป็นความสำคัญสูงสุด ถึงกระนั้นการปฏิบัติตามข้อกำหนดก็ยังไม่สามารถป้องกันการละเมิดข้อมูลได้ เพราะมาตรฐานการปฏิบัติตามกฎนั้นช้ากว่าและมักไม่สามารถหยุดการโจมตีจากแฮกเกอร์ที่มีความซับซ้อนในยุคปัจจุบันได้
อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีที่สามารถช่วยให้คุณปฏิบัติตามข้อกำหนดและป้องกันภัยคุกคามด้านความปลอดภัยในโลกแห่งการดูแลสุขภาพนี้ได้ และที่สำคัญ คุณยังสามารถลดค่าใช้จ่ายได้เพิ่มขึ้นด้วย
การย้ายไปสู่ระบบไร้กระดาษไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยง แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ด้วย
หลีกเลี่ยงการใช้กระดาษ
ในขณะที่พาดหัวข่าวปัจจุบันมักพุ่งเป้าไปที่การแฮกและการขู่กรรโชกข้อมูลจากแรนซัมแวร์ หรือ มัลแวร์เรียกค่าไถ่ โรงพยาบาลหลายแห่งอาจมองข้ามการละเมิดข้อมูลที่เกิดจากการโจรกรรมหรือการสูญหายของเอกสารกระดาษ กระดาษเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดในด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนด แม้การเฝ้าระวังเอกสารที่พิมพ์ออกมาจะสามารถทำได้ง่าย แต่การติดตามเอกสารที่ถูกคัดลอกนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย วิธีปกป้ององค์กรจากการละเมิดข้อมูลจากเอกสารทางกายภาพคือการจัดการเอกสารกระดาษตั้งแต่แรกเริ่มและกำจัดกระดาษให้หมด การย้ายไปใช้ระบบไร้กระดาษไม่เพียงแค่ช่วยลดความเสี่ยง แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์อีกด้วย อย่าลืมวางแผนการนำระบบไร้กระดาษมาใช้ในองค์กรอย่างรอบคอบ
ปกป้องข้อมูลเชิงรุก
หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องข้อมูลผู้ป่วยคือการบริการเชิงรุก หลายโซลูชันการจัดการเอกสารหรือข้อมูลต่างๆในปัจจุบันใช้รูปแบบ “Software as a Service” (SaaS) ซึ่งหมายความว่า ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์จะถูกจัดเก็บในศูนย์ข้อมูลของผู้ให้บริการและข้อมูลทั้งหมดของลูกค้าจะถูกเก็บในเซิร์ฟเวอร์ที่ปลอดภัยของผู้ให้บริการ โดยการเปลี่ยนมาใช้โซลูชัน "Information as a Service" ข้อมูลทั้งหมดจะอยู่ภายในองค์กรของลูกค้าโดยตรง ไม่มีการย้ายข้อมูลหรือใช้เซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ การทำเช่นนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนด
เตรียมพร้อมสำหรับการดูแลสุขภาพที่เชื่อมโยงกัน
นี่คือเวลาที่เราต้องเริ่มมองการณ์ไกล ปัจจุบันบุคลากรด้านการแพทย์ทำงานผ่านอุปกรณ์มือถือมากขึ้น และผู้ให้บริการทางการแพทย์เองก็กำลังใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อที่สวมใส่ได้ในการดูแลสุขภาพทั่วไปและการดูแลผู้ป่วยนอก ซึ่งจุดนี้เองได้กลายเป็นจุดอ่อนในระบบการดูแลสุขภาพและเพิ่มข้อกังวลด้านความปลอดภัยในอนาคต โรงพยาบาลต้องปกป้องข้อมูลบนอุปกรณ์ ข้อมูลที่อยู่ในระหว่างการถ่ายโอนข้อมูล รวมถึงข้อมูลภายในระบบหลังบ้าน ควรเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถแชร์ข้อมูลกันได้โดยไม่กระทบต่อข้อกำหนดการปฏิบัติตามความปลอดภัยด้าน IT และทำให้การเข้าถึงข้อมูลจากที่ใดก็ได้เป็นส่วนสำคัญในโครงสร้างพื้นฐานขององค์กร
อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่วิธีการให้บริการรักษาไปจนถึงวิธีการสื่อสารระหว่างโรงพยาบาลและผู้ป่วย ในขณะที่อุตสาหกรรมพยายามตามให้ทันกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัย องค์กรในวงการสุขภาพต้องเผชิญกับข้อกำหนดที่ซับซ้อน ซึ่งสามารถเป็นอุปสรรคในการดำเนินงานได้ การคิดนอกกรอบของข้อกำหนดและมุ่งเน้นไปที่การจัดการเนื้อหาที่มีความปลอดภัยและชาญฉลาดจะทำให้คุณสามารถก้าวนำไปในโลกแห่งการดูแลสุขภาพยุคปัจจุบันได้
ที่มา: RICOH USA
News & Events
Keep up to date
- 25ก.ค.
ลงทะเบียนฟรี งานสัมมนาออนไลน์จากริโก้ หัวข้อ "Smart Integration of Cybersecurity"
- 24ก.ค.
การตอบสนองของริโก้ต่อการยกเลิกการใช้การยืนยันตัวตนแบบพื้นฐานใน Microsoft Exchange Online SMTP Authentication
- 18ก.ค.
Ricoh Thailand รับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจในงาน Logitech Partner Connect & Conquer 2025
- 07ก.ค.
ริโก้ติดอันดับบริษัทที่มีความยั่งยืนมากที่สุดในโลกประจำปี พ.ศ. 2568 ของนิตยสาร TIME