ยุคของ Digital Transformation-as-a-Service
Digital Transformation นั้นเป็นที่นิยมมาหลายปีแล้ว ย้อนกลับไปปี 2020 การลงทุนกับ Digital Transformation นั้นเป็นการลงทุนเพื่อให้อยู่รอดต่อไปได้อย่างชัดเจน เมื่อเราลองพิจารณาถึงประเด็นนี้ เหตุการณ์ล่าสุดอย่างการระบาดใหญ่ได้ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราคิดและดำเนินการตามการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล
เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม (47%) แบบสำรวจ 2020 KMPG and Harvey Nash CIO กล่าวว่าการระบาดใหญ่ได้เร่งการเกิด Digital Transformation และการนำเทคโนโลยีฉุกเฉินมาใช้ ในขณะที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วของ Digital Transformation ได้นั้น เป้าหมายพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลส่วนใหญ่ยังคงเหมือนเดิม คือ
- เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ
- พัฒนาการมีส่วนร่วมจากลูกค้า
- เสริมสร้างความปลอดภัย
เราอาจจะต้องถามตัวเองว่า Digital Transformation จะขับเคลื่อนการเติบโตและความได้เปรียบในการแข่งขันสำหรับธุรกิจในอนาคตอย่างไร คำตอบของคำถามนี้ต้องเริ่มต้นจากความเข้าใจว่า Digital Transformation นั้นคือการตัดสินใจทางธุรกิจ นั่นหมายความว่า
- ไม่ใช่เพียงแค่เทคโนโลยีเท่านั้น ประสบการณ์ของลูกค้าสำหรับทีมภายในองค์กรแล้วนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเลยได้และควรมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ
- มองให้ไกลกว่าการนำเทคโนโลยีไปใช้ แต่ให้มองถึงความเกี่ยวข้องกับส่วนอื่นๆ ของธุรกิจ เช่น ทรัพยากรบุคคล การเงิน และการตลาด
- ควรใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นและปรับขนาดได้ตามความต้องการทางธุรกิจ
ในอดีต Digital Transformation เป็นสิ่งที่ท้าทาย อย่างไรก็ตามทุกวันนี้ด้วยบริการ Digital Transformation-as-a-Service ทำให้มันไปเป็นไปได้สำหรับธุรกิจทุกขนาด

Digital transformation-as-a-service คืออะไร
เช่นเดียวกับบริการ As-a-Service อื่นๆ Digital Transformation-as-a-Service นั้นให้เครื่องมือ เทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญผ่านบริการซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะเป็นบริการรูปแบบระยะไกล แทนที่จะเป็นในสถานที่หรือในที่สาธารณะ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบ End-to-end ด้วยความสามารถในการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและการตลาดอันเนื่องมาจากความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับขนาดที่มีมาพร้อมในรูปแบบบริการ แนวทางนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเข้าถึง ซึ่งจะช่วยองค์กรต่างๆ ที่เคยคิดว่า Digital Transformation นั้นมีค่าใช้สูงเกินไปในการเข้าถึง
Digital Transformation-as-a-Service ช่วยในการใช้งานและการจัดการบริการด้านดิจิทัลต่างๆ ช่วยให้ธุรกิจลดความยุ่งยากด้วยการเชื่อมต่อคนเข้ากับเทคโนโลยีที่ต้องการเพื่อแก้ปัญหาความท้าทายทางธุรกิจในวงกว้าง นอกจากนี้ Digital Transformation-as-a-Service ยังช่วยสร้างโอกาสด้วยการเปลี่ยนข้อมูลที่มีอยู่ให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึก ตัวอย่างเช่น การนำผลตอบรับของลูกค้าจากหลากหลายช่องทางมารวมเข้าด้วยกันเพื่อนำไปแก้ไขในเชิงรุกในอนาคต
การศึกษาล่าสุดจาก Gartner แสดงให้เห็นว่า 76% ของ CIO ระบุว่ามีความต้องการต่อผลิตภัณฑ์ดิจิทัลใหม่ๆ หรือบริการด้านดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้นระหว่างการระบาดใหญ่ และ 83% คาดการณ์ว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้
เกือบครึ่งหนึ่งของอาสาสมัครในแบบสำรวจ 2020 KMPG and Harvey Nash CIO กล่าวว่าการระบาดใหญ่ได้เร่งการเกิด Digital Transformation และการนำเทคโนโลยีฉุกเฉินมาใช้ เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วของ Digital Transformation ได้ แต่เป้าหมายพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลส่วนใหญ่นั้นยังคงเหมือนเดิม
จะทำให้ Digital Transformation-as-a-Service เป็นการตัดสินใจที่นำโดยธุรกิจได้อย่างไร
Digital Transformation-as-a-Service ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจในระยะยาว เนื่องจากสามารถให้บริการได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านฮาร์ดแวร์หรือค่าบริการนอกสถานที่โดยผู้เชี่ยวชาญ ตัวอย่างสถานการณ์ เช่น แผนกไอทีได้รับมอบหมายให้ช่วยปรับปรุงการแชร์ข้อมูลระหว่างแผนกบัญชีและแผนกทรัพยากรมนุษย์ให้ง่ายดายขึ้น เนื่องจากหลังการระบาดใหญ่ทำให้เกิดการทำงานระยะไกลจากหลากหลายสถานที่ซึ่งทำให้เกิดความยุ่งยากซับซ้อนในการทำงาน ตัวอย่างเช่น การจัดการค่าใช้จ่ายจากการทำงานที่บ้านโดยพนักงาน แล้วแผนกไอทีจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร
ในอดีตมีการแก้ไขปัญหาอยู่ 2-3 วิธี ดังนี้
- การตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับความสามารถของเทคโนโลยี หากเราเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมจากผู้ขายที่มีความชำนาญ ปัญหาก็จะจบไป
- เทคโนโลยีที่มีอยู่ซึ่งแก้ปัญหาบางอย่างได้ แต่ก็ไม่สมบูรณ์แบบ จะถูกนำมาใช้งานเนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่แบบกำหนดเองใช้เวลานานเกินไปสำหรับทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด
- ซื้อเทคโนโลยีใหม่จากมุมมองทางเทคนิคโดยไม่เข้าใจความต้องการทางธุรกิจอย่างแท้จริง
ปัญหาที่ตามมาก็คือการตัดสินใจดังกล่าวมักส่งผลให้เกิดการใช้จ่ายที่มากเกินไปแต่ใช้งานจริงน้อยเกินไป เนื่องจากผู้ที่นำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้งานจริงนั้นไม่ได้รับการแนะนำ การตัดสินใจเกี่ยวกับด้านไอทีที่คำนึงถึงประเด็นอื่นๆ มากกว่าเพียงแค่ตัวเทคโนโลยีนั้นจะเกิดประสิทธิภาพในระยะยาวมากกว่า หรือเรียกได้ว่าการใช้ธุรกิจจัดการกับไอทีนั่นเอง
การศึกษาของ 2020 KMPG and Harvey Nash CIO Survey ที่อ้างถึงข้างต้นนั้นเปิดเผยว่า การใช้ธุรกิจจัดการกับไอทีนั้นช่วยให้องค์กรตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง เหตุผลก็เพราะว่าเนื่องจากแนวทางนี้พิจารณาจากความต้องการของผู้ที่จะนำเทคโนโลยีไปใช้งานจริง นอกจากนี้ยังคำนึงถึงความต้องการของธุรกิจและลูกค้า ซึ่งเป็นจุดสำคัญสองจุดที่เราอาจไม่ทราบหากใช้การพิจารณาจากเทคโนโลยีเป็นหลักเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้แล้วแพ็กเกจการ Subscription Digital Transformation-as-a-Service ก็น่าจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากมันสามารถปรับเปลี่ยนขนาดและขอบเขตตามความต้องการได้ ในขณะที่องค์กรต่างๆ ค้นคว้าว่าบริการดิจิทัลใดให้คุณค่าสูงสุดแก่ผู้ใช้ทั้งภายในและภายนอก ความสามารถในการปรับขนาดและความยืดหยุ่นจึงมีความสำคัญมากขึ้น
ข้อมูลนั้นเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วมากกว่าที่เคยและจะเป็นเช่นนั้นต่อไป ด้วย CIO ที่ต้องการบริการดิจิทัลที่มากขึ้นทำให้ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมต่อการรับเอา Digital Transformation-as-a-Service มาใช้งาน
การระบาดใหญ่สอนอะไรเราเกี่ยวกับ Digital Transformation
เสน่ห์อย่างหนึ่งของโครงการ Digital Transformation โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับระบบอัตโนมัติก็คือมันสามารถปรับเปลี่ยนและพัฒนาได้ และด้วยความยืดหยุ่นของ Digital Transformation-as-a-Service ทำให้การเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องนั้นไม่จำเป็นต้องมีการลงทุนใหม่ทุกครั้ง เราควรพิจารณาถึงประโยชน์ข้อนี้และนำมันมาใช้ ดังนั้นลองใช้เคล็ดลับเหล่านี้
- รับฟังมุมมองจากเหล่าหัวหน้าและผู้ใช้งานต่างๆ ที่มีความแตกต่างหลากหลายภายในองค์กร บางทีมุมมองใหม่ๆ เหล่านี้ก็นำมาซึ่งไอเดียดีๆ ได้
- อย่าใช้เทคโนโลยีเพียงเพราะมันน่าจะดีที่สุด แต่ควรใช้เพราะมันได้รับการทดสอบว่าสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะได้
- มีการประเมินและเปิดรับแนวทางสำหรับการพัฒนาอยู่เสมอ การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจะสำเร็จมากขึ้นเมื่อใช้ประโยชน์จาก Digital Transformation-as-a-Service
สิ่งที่ต้องทำต่อไป
จากรายงานของ Management Review ที่ Berkeley โอกาสใหม่ๆ นั้นจะเกิดขึ้นจากการใช้ Digital Transformation-as-a-Service เพื่อเพิ่มโอกาสเหล่านั้นสูงสุด พวกเขาแนะนำดังนี้
- บริษัทต้องมองให้ไกลกว่าเทคโนโลยีและทำงานเพื่อให้แน่ใจว่ามีกรอบความคิดที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เน้นข้อมูลและการทดลอง และปรับเปลี่ยนได้
- แผนกไอทีและผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีอื่นๆ ควรมีความสอดคล้องอย่างใกล้ชิดกับบริการต้นน้ำและปลายน้ำ เพื่อให้เกิดการบูรณาการอย่างราบรื่นในฟังก์ชันทางธุรกิจต่างๆ
สำคัญอย่างยิ่งที่เราต้องตระหนักว่าเรากำลังอยู่ท่ามกลางยุคใหม่ที่มีแนวทางการลงทุนด้านเทคโนโลยีต่างออกไป โดยผสมผสานทั้งเทคโนโลยีและบริการเข้าด้วยกัน หมดยุคของการใช้เทคโนโลยีแบบกระจัดกระจายแค่บางส่วนแล้ว ยุคใหม่ของการลงทุนทางเทคโนโลยีนั้นต้องตัดสินใจโดยใช้ประสบการณ์ของผู้ใช้งานและลูกค้ามาเป็นอันดับแรก
การขับเคลื่อนการเติบโตและความได้เปรียบในการแข่งขันนั้นมีความสำคัญเป็นอันดับแรกต่อองค์กร ด้วย Digital Transformation-as-a-Service และแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับการผสมผสานผลประโยชน์ของผู้คนควบคู่ไปกับความสามารถของเทคโนโลยีนำไปสู่เส้นทางการเติบโต ที่จะปรับปรุงทั้งประสบการณ์ของลูกค้าและผู้ใช้ของคุณในท้ายที่สุด
ที่มา: https://www.ricoh-usa.com/en/insights/articles/era-of-digital-transformation-as-a-service
News & Events
Keep up to date
- 22พ.ย.
ประธานกรรมการบริษัทริโก้ส่งมอบแผนนโยบายเร่งลดการปล่อยคาร์บอน ผ่านการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว ให้กับรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ในฐานะประธานร่วมของ JCLP
- 13พ.ย.
ประธานของริโก้ขึ้นกล่าวคำปราศรัยในงาน Reuters NEXT 2023 ในหัวข้อ “การผลักดันพนักงานให้ทุ่มเทกับ ESG”
- 08พ.ย.
ริโก้ก่อตั้งกองทุนเพื่อสร้างนวัตกรรม
- 31ต.ค.
ริโก้ได้เผยแพร่รายงานเชิงบูรณาการของริโก้ กรุ๊ป ประจำปี พ.ศ. 2566