การใช้ความเร็วของข้อมูลเพื่อมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น

24 ก.ค. 2568

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญเมื่อพิจารณาว่าจะนำมาใช้งาน ส่งต่อข้อมูล และปกป้องข้อมูลเหล่านั้นอย่างไร

ความเร็วของข้อมูล หรือ Data velocity ซึ่งหมายถึงความเร็วที่ข้อมูลถูกสร้างขึ้น กระจายออกไป และเก็บรวบรวมกำลังอยู่ในจุดสูงสุดที่ไม่เคยมีมาก่อน โดย IDC คาดการณ์ว่า ข้อมูลทั่วโลกจะเติบโตถึง 221 เซตตะไบต์ภายในปี 2027 ซึ่งเพิ่มจาก 64 เซตตะไบต์ในปี 2022 หรือเติบโตที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 28.2% CAGR

โดยภายในปี 2026 ข้อมูลจะถูกสร้างขึ้นที่ความเร็ว 7 เพตะไบต์ต่อวินาที อย่างไรก็ตามข้อมูลถึง 42% ในองค์กรยังไม่ได้ถูกใช้งานอย่างเต็มที่ ซึ่งหมายความว่าองค์กรต่างๆยังคงจมอยู่ในข้อมูลจำนวนมาก

ลูกค้าต้องการข้อมูล และพวกเขาต้องการมันอย่างรวดเร็ว การตอบสนองที่เชื่องช้า กระบวนการแบบแมนนวล และการขาดข้อมูลเชิงลึกถือเป็นแนวคิดที่ล้าสมัย ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยีเองก็ถูกคาดหวังว่าจะทำงานได้อย่างไร้ที่ติ และแอปพลิเคชันต่างๆก็ถูกคาดหวังให้สามารถทำงานร่วมกันได้

ดังนั้น ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data จะช่วยพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่างไร?

คำตอบอยู่ที่ความสามารถในการเข้าถึงและการใช้ข้อมูลเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งต้องอาศัยทัศนคติที่ยืดหยุ่นเพื่อปรับตัวและเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์

จากการศึกษาโดย Forrester พบว่า ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะภักดีมากขึ้น 2.4 เท่าเมื่อบริษัทสามารถแก้ปัญหาให้กับพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งโดยปกติแล้วคุณจำเป็นต้องใช้ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจปัญหานั้น การนำความเร็วในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มาใช้ จะสามารถผลักดันไปสู่การสร้างนวัตกรรม ความไว้วางใจ และสร้างผลกำไรได้

คำถามที่เราต้องถามตัวเองคือ

  1. เราจะสามารถปลดล็อกและใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่ได้อย่างไร?
  2. เราจะเพิ่มความเร็วข้อมูลเพื่อให้สามารถส่งมอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า มีความถูกต้อง และส่งผลผลกระทบเชิงบวกต่อลูกค้าได้อย่างไร

ทำไมความเร็วของข้อมูลจึงสำคัญต่อความสำเร็จทางธุรกิจ

เมื่อบริษัทสามารถใช้ข้อมูลลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จะช่วยเปิดโอกาสให้สามารถเข้าใจปัญหาของลูกค้าได้ดีขึ้น สร้างความภักดีในแบรนด์ผ่านประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ขับเคลื่อนลูกค้าไปตาม Buyer Journey ผ่านการมีปฏิสัมพันธ์ที่ถูกเวลาและเชื่อถือได้ และคาดการณ์ความต้องการในอนาคตของลูกค้าได้

การพัฒนาความเร็วในการใช้ข้อมูลจะนำไปสู่การตัดสินใจซื้อที่รวดเร็วขึ้น ความคล่องตัวในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงผลกำไรที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจที่สำคัญ เช่น ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมและการกำกับดูแล หรือ ESG การเจาะตลาดใหม่ และประสบการณ์ของพนักงาน

การปลดล็อกข้อมูลสำคัญด้วยแพลตฟอร์มธุรกิจอัจฉริยะ

เมื่อพิจารณาถึงความเร็วและความคล่องตัวของข้อมูลแล้ว ข้อมูลขนาดใหญ่จะช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่างไร?

ขั้นตอนแรกจะต้องเริ่มที่แพลตฟอร์มธุรกิจอัจฉริยะเพื่อปลดล็อกข้อมูลที่ถูกกักขัง ซึ่งมักจะรวมถึงการประมวลผลเอกสารอัจฉริยะ (การสแกนและการจับภาพ) การทำให้กระบวนการทำงานเป็นระบบอัตโนมัติ และโซลูชันการจัดการเนื้อหา

ธุรกิจต้องการข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ได้และมีโครงสร้างที่เหมาะสมเพื่อขับเคลื่อนแอปพลิเคชันอัตโนมัติ และเพื่อให้เครื่องมือเหล่านี้สามารถแปลงข้อมูลให้เป็นรูปแบบที่เหมาะสมได้ เนื่องจาก 90% ของข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง การทำให้สามารถค้นหาข้อมูลและนำไปใช้ได้ ถือเป็นขั้นตอนแรกในการทำให้ข้อมูลขนาดใหญ่มีความรวดเร็วและช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า ข้อมูลถือเป็นตัวขับเคลื่อนความคล่องตัวในกระบวนการทางธุรกิจดิจิทัลและมีคุณค่าต่อลูกค้า

ดังนั้น การเร่งกระบวนการปลดล็อกและจัดการกับการเพิ่มจำนวนของข้อมูลจะสามารถช่วยในเรื่องดังต่อไปนี้

  • ช่วยให้การตั้งค่าบัญชีใหม่และการเริ่มต้นใช้งานทำได้เร็วขึ้น นั่นหมายถึงการทำกำไรได้เร็วขึ้น
  • เพิ่มความสมบูรณ์ของโปรไฟล์ลูกค้าและช่วยให้สามารถออกแบบโซลูชันที่สามารถปรับแต่งได้
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดข้อผิดพลาดจากการป้อนข้อมูลด้วยมือ
  • กำจัดข้อมูลและคำขอที่ซ้ำซ้อน
  • ให้ข้อมูลและการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าด้วย AI
  • ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวได้ง่ายขึ้น
  • ตรวจจับและลดการทุจริต
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้วยความสามารถในการตัดสินใจที่แบบ data driven ที่รวดเร็วยิ่งขึ้นและให้ผลลัพธ์ที่ดี

3 วิธีในการปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าด้วยการส่งมอบข้อมูลอย่างรวดเร็ว

เมื่อองค์กรสามารถเปลี่ยนข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างให้กลายมาเป็นรูปแบบที่มีโครงสร้างได้โดยอัตโนมัติ ความเร็วจะสามารถเพิ่มขึ้นได้โดยการวิเคราะห์เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึก และนี่คือ 3 เคล็ดลับที่สามารถสร้างผลกระทบโดยตรงกับลูกค้าได้

  1. สร้างข้อมูลเชิงลึกที่ดียิ่งขึ้นเพื่อส่งมอบข้อมูลที่ลูกค้าต้องการ

    การมีวิสัยทัศน์ในการเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมตามข้อมูลและบริบทสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ และทำให้วงจรการซื้อขายเดินหน้าไปอีกขั้น แพลตฟอร์มธุรกิจอัจฉริยะและเครื่องมืออัตโนมัติเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้
  2. ใช้ข้อมูลเพื่อจุดประกายการนวัตกรรม

    หลักการคือเมื่อข้อมูลสามารถถูกเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว ไอเดียใหม่ๆจะสามารถเกิดขึ้นได้จากชุดข้อมูลขนาดใหญ่ แนวโน้ม และข้อมูลเชิงลึก เช่นเดียวกับที่เราเห็นได้ จาก AI ในปัจจุบันที่สามารถสร้างเนื้อหาต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็น ข้อความ ภาพ เสียง และวิดีโอ

    ความคล่องตัวและความเร็วในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินธุรกิจด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ และถือเป็นสัญญาณที่บ่งบอกให้ลูกค้ารับรู้ว่า บริษัทของคุณสามารถเติบโตและปรับตัวได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าความเร็วในการจัดการข้อมูลจะถูกนำไปใช้กับเทคโนโลยี AI ใหม่ๆ หรือกับกลยุทธ์ IT มันก็สามารถสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจของคุณและช่วยเสริมสร้างความสำเร็จให้กับลูกค้าได้
  3. ตระหนักว่าความเชื่อมั่นในแบรนด์นำไปสู่รายได้

    ความเชื่อมั่นจากลูกค้าสามารถสร้างได้จากการดำเนินการอย่างรวดเร็วและการตอบสนองที่ดี องค์กรที่เข้าใจถึงความสำคัญของแบรนด์ที่เชื่อถือได้และประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า จะนำไปสู่ความภักดีของลูกค้าและรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้องค์กรนั้นก้าวนำหน้าไปได้ การสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์สามารถนำไปสู่ความเต็มใจของลูกค้าในการแนะนำ การวิจารณ์ การพูดถึง รวมถึงการพิจารณาบริการหรือโซลูชันเพิ่มเติมในอนาคต

เร็วกว่า ดีกว่า

แม้จะไม่มีข้อกำหนดว่า "เร็วกว่า" แปลว่า "ดีกว่า" แต่เป็นที่รับรู้กันดีในฐานะมนุษย์ว่า เราต่างคาดหวังข้อมูลที่รวดเร็วและถูกต้อง พร้อมการให้บริการที่ดี ประสบการณ์ลูกค้าและการเติบโตควรเป็นรากฐานของทุกสิ่งที่เราทำ ดังนั้นธุรกิจจึงไม่ควรพลาดโอกาสที่จะใช้ความเร็วของข้อมูลในการสร้างความสำเร็จ

Using data velocity to deliver a better customer experience

ที่มา: RICOH USA