การบริหารจัดการงานพิมพ์ (Print Management) คืออะไร
มาทำความเข้าใจว่า “การบริหารจัดการงานพิมพ์” คืออะไร และมีองค์ประกอบอะไรบ้าง
ความหมายและความท้าทายของการบริหารจัดการงานพิมพ์
ในความหมายพื้นฐานที่สุด “การบริหารจัดการงานพิมพ์” หมายถึง การดูแลจัดการอุปกรณ์พิมพ์ ซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน และวัสดุสิ้นเปลืองทั้งหมดในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นเครื่องพิมพ์สำนักงาน เครื่องมัลติฟังก์ชัน หรืออุปกรณ์พิมพ์อื่นๆ (เช่น เครื่องพิมพ์ Zebra) เพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างสะดวก
แต่ในความเป็นจริง การบริหารจัดการงานพิมพ์มักมีความซับซ้อนมากกว่าที่คิด
หลายองค์กรตั้งเป้าหมายอยากสร้างระบบงานพิมพ์ที่เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วทั้งองค์กร ซึ่งเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลสำหรับฝ่าย IT ที่ต้องการ
- กำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยและนโยบายการพิมพ์ที่ใช้ได้กับทุกเครื่อง
- อัปเดตเฟิร์มแวร์และไดรเวอร์ให้กับอุปกรณ์ทั้งหมดได้พร้อมกัน
- ตรวจสอบการใช้งานและสถานะการทำงานของอุปกรณ์ทั้งหมดผ่านศูนย์กลาง
แต่ในทางปฏิบัติ การนำกลยุทธ์บริหารจัดการงานพิมพ์มาใช้ในองค์กรที่มีอุปกรณ์หลากหลาย แยกตามพื้นที่หรือสาขา ถือเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก
สาเหตุหลักมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยคือ “สภาพแวดล้อมของระบบพิมพ์ถูกสร้างขึ้นแบบเฉพาะกิจ” ไม่มีการวางแผนล่วงหน้าระดับองค์กร และเมื่อถึงเวลาที่ต้องการวางกลยุทธ์อย่างจริงจัง การรวบรวมข้อมูลเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ให้ครบถ้วนจึงกลายเป็นภารกิจขนาดใหญ่ที่ซับซ้อน
นอกจากนี้ ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาก็เพิ่มความท้าทายมากขึ้น เช่น
- ต้องการเพิ่มกำลังการพิมพ์หรือระบบจัดเก็บเอกสารขั้นสูง
- การขยายสาขาใหม่
- หรือเมื่อเครื่องพิมพ์เก่าเริ่มหมดอายุการใช้งาน
การทำงานแบบรีโมตหรือเคลื่อนที่ก็ยิ่งทำให้การจัดการยากขึ้นอีกขั้น
หลายองค์กรตัดสินใจติดตั้งเครื่องพิมพ์ใหม่โดยพิจารณาจาก “ราคาถูกที่สุด” หรือ “พร้อมใช้งานเร็วที่สุด” ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์ในระยะยาว ผลลัพธ์ที่มักเกิดขึ้นคือ การมีเครื่องพิมพ์หลายรุ่นหลายยี่ห้อ กระจายอยู่หลายจุด ไม่มีข้อมูลการใช้งานที่ชัดเจน และไม่สามารถควบคุมต้นทุนได้
ปัจจัยเพิ่มเติมที่ต้องคำนึงถึงในการบริหารจัดการงานพิมพ์
ปัจจุบัน เครื่องมัลติฟังก์ชัน (MFP) ไม่ได้ทำหน้าที่แค่ “พิมพ์” เท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางของการจัดการเอกสาร ทั้งการสแกน ประมวลผล จัดเก็บ และถ่ายโอนข้อมูล ซึ่งหลายครั้งเป็นข้อมูลสำคัญหรือมีความลับ ดังนั้น เครื่องเหล่านี้จึงต้องได้รับการรักษาความปลอดภัยเช่นเดียวกับทรัพยากร IT อื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อมีการเชื่อมต่อระบบคลาวด์หรือใช้งานผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่
องค์ประกอบหลักของการบริหารจัดการงานพิมพ์
การบริหารจัดการงานพิมพ์ช่วยสร้างกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการจัดการอุปกรณ์ ต้นทุน และการเข้าถึงงานพิมพ์ของพนักงาน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม โดยมี 3 เป้าหมายหลัก
- บริหารต้นทุนการพิมพ์อย่างมีประสิทธิภาพ
จัดการการใช้กระดาษ หมึกพิมพ์ และวัสดุสิ้นเปลืองให้เหมาะสม เช่น การตั้งค่าการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ (Duplex Printing) การพิมพ์ขาวดำแทนสี หรือการใช้ระบบโควตาและรหัสค่าใช้จ่าย เพื่อควบคุมปริมาณงานพิมพ์และลดการพิมพ์ที่ไม่จำเป็น - บริหารจัดการอุปกรณ์พิมพ์
ติดตามการใช้งานของแต่ละเครื่อง ทั้งปริมาณงานพิมพ์ ประเภทงาน และผู้ใช้งาน เพื่อวิเคราะห์การใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ควรย้ายเครื่องไปจุดอื่นหรือปรับจำนวนให้เหมาะสมหรือไม่ เครื่องทำงานสมบูรณ์หรือมีการตั้งค่าตรงกับความต้องการจริงหรือเปล่า รวมถึงการตรวจสอบสถานะการทำงานและบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) - ปกป้องข้อมูลอย่างรัดกุม
เอกสารที่พิมพ์ออกมามักมีข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลสำคัญ เช่น หมายเลขบัตรประชาชน ผลทดสอบ หรือข้อมูลทางการเงิน การไม่มีระบบควบคุมการพิมพ์ที่เหมาะสมอาจเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล ดังนั้นระบบบริหารงานพิมพ์ที่ดีควรมีฟังก์ชันการยืนยันตัวตนของผู้ใช้ (User Authentication) และระบบพิมพ์ปลอดภัย (Secure Print Release)
การทำงานของระบบบริหารจัดการงานพิมพ์
หากไม่มีระบบกลางในการบริหารจัดการเครื่องพิมพ์ที่กระจายอยู่หลายจุด การตรวจสอบการใช้งาน การควบคุมงานพิมพ์ และการป้องกันปัญหาเชิงรุกอาจทำได้ยาก ซึ่งนำไปสู่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและต้นทุนที่สูงขึ้น
บริการบริหารจัดการงานพิมพ์ (Managed Print Services - MPS) เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้โดยตรง
ยิ่งองค์กรมีขนาดใหญ่ และมีจำนวนผู้ใช้งานกับอุปกรณ์มากเท่าไร ความจำเป็นของระบบนี้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น พร้อมโอกาสในการลดต้นทุนได้มากขึ้นเช่นกัน
ซอฟต์แวร์บริหารจัดการงานพิมพ์ช่วยให้องค์กรควบคุมการพิมพ์ได้ดียิ่งขึ้น ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความโปร่งใสในการใช้งาน โดยข้อมูลทั้งหมดที่ผ่านระบบยังได้รับการปกป้องอย่างปลอดภัยอีกด้วย
หัวใจสำคัญคือ “เครื่องมือบริหารจัดการแบบศูนย์กลาง” ที่ฝ่าย IT สามารถใช้ตรวจสอบสถานะเครื่อง ระดับหมึก ปริมาณการพิมพ์ และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทุกเครื่องในเครือข่ายได้อย่างครบถ้วน ปัจจุบัน ระบบเหล่านี้มักอยู่บนคลาวด์เพื่อให้บริหารได้ง่ายขึ้น
และนี่คือคุณค่าหลักของ “บริการบริหารจัดการงานพิมพ์แบบครบวงจร” (Managed Print Services) เพราะข้อมูลจากการวิเคราะห์งานพิมพ์ (Print Analytics) จะช่วยให้เข้าใจการใช้งานจริง ปรับการจัดวางอุปกรณ์ เพิ่มประสิทธิภาพการสั่งซื้อวัสดุ และยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของทั้งพนักงานในออฟฟิศและผู้ทำงานทางไกล
ข้อมูลจากทุกงานพิมพ์สามารถระบุค่าใช้จ่าย ผู้พิมพ์ โปรแกรมที่ใช้ รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ เพื่อสร้างระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Audit Trail) สำหรับการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยของข้อมูล
โซลูชันการบริหารจัดการงานพิมพ์
ปัจจุบันมีโซลูชันการบริหารจัดการงานพิมพ์ให้เลือกมากมาย แต่ความท้าทายคือการรวบรวมข้อมูลและออกแบบกลยุทธ์ที่ครอบคลุมทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ เครือข่าย หรือรูปแบบการทำงานที่หลากหลาย
กลยุทธ์สำเร็จรูปแบบ “หนึ่งเดียวใช้ได้ทุกองค์กร” จึงใช้ไม่ได้จริงในทางปฏิบัติ เพราะแต่ละองค์กรมีสภาพแวดล้อม โครงสร้างระบบ และนโยบายแตกต่างกัน
หลายครั้ง การเริ่มต้นประเมินความต้องการก็อาจเกินขีดความสามารถขององค์กรเอง การได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญภายนอกที่มีมุมมองเป็นกลางจึงช่วยให้การวิเคราะห์และวางแผนเป็นระบบมากขึ้น
องค์กรที่ใช้บริการวิเคราะห์ข้อมูลการพิมพ์ (Print Analytics) จะสามารถปรับแต่งสภาพแวดล้อมการพิมพ์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยข้อมูลที่จัดเก็บอย่างเป็นระบบจะช่วยให้มองเห็นแนวทางปรับปรุงประสิทธิภาพและลดต้นทุน เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายได้ชัดเจน
และด้วยแนวโน้มการทำงานแบบรีโมตที่เพิ่มขึ้น “การพิมพ์ผ่านระบบคลาวด์และอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างปลอดภัย” จึงกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของทุกกลยุทธ์การบริหารจัดการงานพิมพ์
ด้วยเหตุนี้ หลายองค์กรจึงเลือกใช้บริการ Managed Print as a Service (MPaaS) เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล (Digital Transformation) ผ่านโมเดลแบบ Subscription แทนการลงทุนเพิ่มเติมในโครงสร้างพื้นฐานเดิม
โซลูชันการบริหารจัดการงานพิมพ์ที่ยืดหยุ่นและครบวงจรจากริโก้
โซลูชันการจัดการอุปกรณ์และการวิเคราะห์งานพิมพ์จากริโก้ ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความพร้อมในการทำงานของอุปกรณ์ ปรับโครงสร้างพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด (ลด Total Cost of Ownership - TCO) สร้างกระบวนการทำงานที่ราบรื่น ปลอดภัย และช่วยให้ทีมของคุณสามารถมุ่งเน้นในสิ่งที่สำคัญที่สุด ด้วยการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ที่มา: RICOH USA
News & Events
Keep up to date
- 17ต.ค.
ริโก้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน “องค์กรที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการทำงาน ปี 2025” โดยนิตยสารฟอร์บส์
- 19ก.ย.
ริโก้ได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสารไทม์ (TIME) ให้อยู่ในรายชื่อบริษัทที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี พ.ศ. 2568 จากความโดดเด่นด้านการมีส่วนร่วมของพนักงาน การเติบโต และการดำเนินงานอย่างยั่งยืน
- 19ส.ค.
ริโก้ เอเชียแปซิฟิก จับมือไมโครซอฟท์ เสริมศักยภาพบุคลากรให้พร้อมรับอนาคตด้วยเอไอ
- 30ก.ค.
ริโก้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่อยู่ในดัชนี ESG ทั้ง 6 รายการ สำหรับหุ้นญี่ปุ่นที่กองทุนบำเหน็จบำนาญของรัฐบาลญี่ปุ่น (GPIF) ใช้ในการลงทุน